รีวิวซีรีส์ Alice in Borderland อลิซในแดนมรณะ ไฮไลต์ปลายปี ซีรีส์หนีตายสุดระทึก

Alice in Borderland

ด้วยคอนเซปต์เรื่องสุดล้ำที่ไม่เคยตกหล่นไปกับ แนวคิดนี้ไปต่อยอดสร้างเรื่องราวของตนมากมาย ไม่เว้นแม้แต่ญี่ปุ่นก็มีมังงะสุดระทึกของ ฮาโระ อาโสะ แถมยังตั้งชื่อให้ใกล้เคียงกับนิยายต้นฉบับในชื่อว่า Alice in Borderland  ซึ่งตอนนี้มันได้แปลงร่างกลายเป็นซีรีส์แล้ว [ ไม่สปอยนะ ]

รีวิวซีรีส์ Alice in Borderland อลิซในแดนมรณะ ที่เล่าเรื่องราวของ อาริสึ ชายหนุ่มตกงานผู้หลงรักการเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ หรือเรียกง่าย ๆ ว่า เด็กติดเกมนั่นแหละ จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาพบว่าตัวเองอยู่ในกรุงโตเกียวที่ร้างผู้คน มีเพียงเขาและเพื่อนๆ เท่านั้นที่อยู่ในดินแดนมรณะ ณ โลกคู่ขนานแห่งนี้ อาริสึได้เจอ อูซางิ หญิงสาวที่ฟันฝ่าในเกมเพียงลำพัง ทั้งคู่จะออกไปไขปริศนาครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยกัน โดยต้องเสี่ยงตายและทำทุกทางเพื่อให้มีชีวิตรอด โดยกฎของที่นี่ก็คือ เวลาชีวิตของพวกเขาถูกนับถอยหลังไปเรื่อยๆ และทางเดียวที่จะต่อเวลาชีวิตได้ก็คือการเล่นเกม ซึ่งเกมของโลกนี้ไม่ใช่เกมที่จะพลาดแล้วเริ่มใหม่ได้ เพราะถ้าพลาดมันหมายถึงชีวิต

เมื่ออ่านพลอตแล้วเชื่อว่าหลายคนคงแอบปรามาสหนังว่า คอนเซปต์แบบนี้ มักจะหาทางลงให้เรื่องราวได้แบบใหนกัน แล้ว Alice in Borderland จะรอดเหรอ? คำตอบคือยิ่งกว่ารอดอีก ซีรีส์วางปมแต่ละตอนให้เราต้องลุ้นระทึกแถมแต่ละคาแรกเตอร์ ในซีรีส์ยังมีความน่าสนใจ และพลอตเรื่องก็ สุดล้ำ กับการนำเสนอในรูปแบบไลฟ์แอ็กชันแบบนี้มากเลย แถมยังทำออกมาให้ผู้ชมที่ไม่ได้อ่านมังงะเห็นถึงปมเรื่องที่วางไว้ซับซ้อนและลุ่มลึก แถมยังทำให้เกมแต่ละเกมออกมาดูดีไม่โป๊ะ ดูแล้วลุ้นแบบแทบลืมหายใจได้ทุกเกมจริง ๆ

ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่เน้นใช้สมองอย่างเดียว จึงค่อนข้างรู้สึกสดใหม่อยู่ตลอดเวลา แต่จุดนี้เองก็อาจจะเป็นจุดที่ทำให้คุณรู้สึกไปไม่สุดได้เช่นกัน เพราะถ้าคุณตั้งเป้าหมายไว้ว่าอยากจะมาดูพระเอกโชว์กึ๋น คุณก็อาจจะผิดหวัง เพราะไม่ใช่ทุกเกมที่จะได้โชว์ หรือถ้าคุณอยากมาดูดราม่าหรืออะไรปวดตับๆ มันก็ไม่ใช่ทุกเกมที่จะเป็นแบบนั้น

ด้านงานภาพ ถือว่าสวยงามสุดๆ เราจะได้เห็นย่านต่างๆในญี่ปุ่นที่ไร้ผู้คน ดูสะอาดตาและลึกลับสุดๆ ส่วนระหว่างการเล่นนั้นอาจจะมีฉาก CG ที่ดูขัดๆไปบ้างแต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเลย สรุปแล้ว Alice in Borderland เป็นหนึ่งในซีรี่ส์ Live Action แนว Survival Game ที่ดูได้เพลินๆสุด  ถ้าใครชอบแนวนี้จัดเลย จบแบบนี้มีภาคต่อแน่นอนครับ รับชมได้แล้ว ทาง Netflix

ติดตามรีวิวภาพยนตร์ ได้ที่ : รีวิว Netflix

ติมตามเพจได้ที่ : มูฟวี่ Up2You