รีวิว Aquaman and the Lost Kingdom
รีวิว Aquaman and the Lost Kingdom

ภาพยนตร์แนว : ซุปเปอร์ฮีโร / ผจญภัย / แอ็คชั่น / Sci-Fi

ผู้กำกับ: เจมส์ วาน

นำแสดงโดย: เจสัน โมโมอา, แพทริก วิลสัน, แอมเบอร์ เฮิร์ด, ยาห์ยา อับดุล-มาทีน ที่ 2, นิโคล คิดแมน


รีวิว Aquaman and the Lost Kingdom ในภาคต่อของ แบล็คแมนต้า (อับดุล-มาทีน) ยังคงต่อสู้เพื่อล้างแค้นการตายของพ่อของเขาด้วยการเอาชนะ อควาแมน (เจสัน โมโมอา) ซึ่งปัจจุบันเป็นราชาแห่งแอตแลนติส แต่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ แบล็คแมนต้ามีพลังแข็งแกร่งขึ้นด้วยตรีศูลดำและสัญญาปีศาจ คิดปลุกอาณาจักรที่สาบสูญไปให้กลับคืนมา และมี ดร.สตีเฟน ชิน (แรนดัลล์ พาร์ค) ผู้หลงใหลในแอตแลนติสอยู่เคียงข้างเขา เพื่อที่จะยืนหยัดต่อสู้กับ แบล็คแมนต้า ด้วยพลังใหม่ของเขา อควาแมน ต้องผนึกกำลังกับ คิงออร์ม (แพทริค วิลสัน) หลังภาคก่อนเขาต้องต่อสู้แย่งชิงบัลลังก์กับ คิงออร์ม น้องชายต่างมารดาพื่อร่วมมือปกป้องอาณาจักรไว้ให้ได้ และมุ่งหมายทำลายชาวบก จนในที่สุดเขาก็ถูกคุมขังชดใช้ความผิด

รีวิว Aquaman and the Lost Kingdom

Aquaman and the Lost Kingdom’ น่าดูไหม?

สำหรับใครที่เป็นแฟนตัวยงของ Aquaman ไปดูหนังและเพลิดเพลินกับตัวละครของ DC ที่คุณชื่นชอบให้มากขึ้น แต่ Aquaman และ the Lost Kingdom เป็นส่วนเสริมของ DCEU ที่น่าจดจำอย่างสิ้นเชิง

ด้านงานภาพต้องบอกเลยว่านี่คือจุดแข็งที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้ ทั้งแสง, สี และความอลังการของฉาก มาได้แบบจัดเต็มสุด พร้อมทั้งยังถ่ายทำด้วยกล้อง IMAX ตลอดทั้งเรื่อง ดังนั้นรับประกันได้อย่างแน่นอน

ด้วยหนังที่มีความยาวถึง 2 ชั่วโมง ซึ่งทำให้เราตื่นตาไปภาพแสงสีเสียงของหนังแล้ว รู้สึกว่าตัวละคร อย่าง Heard Mera and Kidman Atlanna มีบทบาทน้อยเกินไป ในเรื่องปรากฎตัวจริงไม่กี่ฉากจนทำให้โครงเรื่องมีความสับสน ซึ่งรวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างแอตแลนนาและทอม เคอร์รี (เทมูเอรา มอร์ริสัน) อีกด้วย

รีวิว Aquaman and the Lost Kingdom

แต่เสน่ห์ของหนังอควาแมนยังคงอยู่ครบ ทั้งมุกโบ๊ะบ๊ะตลกจังหวะแม่น ภาพและการออกแบบที่ตื่นตา เช่น ภาพของอาณาจักรแอตแลนติสใต้น้ำ ที่เพิ่มภาพของอาณาจักรสาบสูญเข้ามา พร้อมด้วยดินแดนบนบกที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ในภาคนี้ นอกจากนี้ยังมีแขกรับเชิญสุดวิเศษจาก ‘มาร์ติน ชอร์ต’ ดาราชาวแคนาดาที่น่าจะทำให้ทุกคนยิ้มได้

โดยสรุปแล้ว Aquaman and the Lost Kingdom เป็นหนังฮีโร่ที่บันเทิงที่ยังคุ้มค่าในการดูครับ ไม่เสียดายเงิน ไม่เสียเวลา และถ้ามองความอลังการ แอคชั่นงานภาพ ความสนุก แต้มันก็เทียบไม่ได้กับ Aquaman ภาคแรก ทำให้หนังภาคนี้มีความเสมอตัวที่ดูแล้วก็แอบเสียดายว่าน่าจะทำได้ดีกว่านี้และเป็นการปิดจักรวาล DCEU ที่ดูจาง ๆ เฉย ๆ ไม่ได้น่าจดจำขนาดนั้น

ติดตามรีวิวภาพยนตร์ ได้ที่ : รีวิว Netflix

ติมตามเพจได้ที่ : มูฟวี่ Up2You