Kingdom 2

สมกับที่รอคอย Kingdom Season 2 กับการคลายปมเรื่อง ที่มาของเชื้อระบาด ที่ได้ขมวดไว้ในซีซันแรกว่าทำไมช่วงหลังๆซอมบี้ถึงไม่กลัวแดด แล้วสมุนไพรคืนชีพ ที่ว่ามีส่วนทำให้คนติดเชื้อได้ยังไง ซึ่งในซีซันที่ 2 นี้ก็ได้เฉลยไว้แล้ว รวมไปถึงเหตุการณ์ที่หมอหญิง ซอบี ยังได้ค้นพบวิธีเอาเชื้อออกเมื่อโดนซอมบี้กัดอีกด้วย [ สปอยนิดๆ ]

รีวิว ซีรี่ย์เกาหลี kingdom ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด season 2 ดำเนินเรื่องต่อจากฉากจบของซีซั่น 1 ทันที แต่ก็มีการเล่าย้อนแบบพอประมาณ ให้ได้ระลึกถึงความหลังกัน ว่าด้วยการหาทางป้องกัน และแก้ไขปัญหาโรคระบาดขององค์รัชทายาท อีชาง ซึ่งถึงตอนนี้เขาทั้งต้องตั้งรับเหล่าผู้ติดเชื้อ ( ซอมบี้ ) หาทางรักษา รวมถึงต้องรับมือกับเกมส์การเมืองภายในวัง ของอัครมหาเสนาบดี โจฮักจู และ มเหสีโจ ที่ต้องการกำจัดเขาให้พ้นทางอีกด้วย

ความรู้สึกที่อยากเอาใจช่วย อีชาง จึงมีไม่มากมายเท่ากับ ซีซั่นก่อน เป็นเหตุให้ความเข้มข้นของเส้นเรื่องถูกทอนลงไป ขณะที่บางจุดพอใช้ความง่ายเข้าว่า ก็กลายเป็นเราไม่อาจหาคำตอบได้ว่าเขาใส่เหตุการณ์นี้เข้ามาทำไมเสียอย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสนุกลดลง

แต่ประเด็นสำคัญที่เราสนใจ และอดพูดถึงไม่ได้ คือทั้งใน Kingdom Season 1 และ 2 ต้องการนำเสนออะไรกันแน่ สุดท้ายก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องการเมือง การปกครอง ที่อาจจะเป็นภาพสะท้อนของประเทศใดประเทศหนึ่ง รวมถึงโรคระบาดที่มาประจวบเหมาะกับสถานการณ์ Covid-19 พอดี มาดูกันว่าเหตุการณ์ต่างๆ สะท้อนสังคมอย่างไร

ด้วย Kingdom เป็นซีรีส์ที่นำเสนอรูปแบบซอมบี้แนวใหม่ จากที่เคลื่อนไหวเชื่องช้ากลับวิ่งเร็วกว่ามนุษย์ ตรงนี้อาจทำให้เข้าใจได้ว่าเชื้อโรค สามารถแพร่กระจายได้เร็วขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มที่คนจะเป็นโรคระบาดกันมากขึ้น อย่างสถานการณ์ Covid-19 ที่กำลังรุนแรง และแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วอยู่ในขณะนี้ [ เข้ากับสถานการณ์ตอนนี้จริงๆ ]

Kingdom Season 2 น่าจะติดทำเนียบซีรีส์ Netflix ที่ผู้คนรอคอยมากที่สุดเรื่องหนึ่ง [ แอดก็รอเหมือนกัน ] เลยนะครับ ภายหลังจากฉาย Season 1 ไปแล้วจบด้วยความค้างคา จนผู้ชมค้างเติ่งกับความพีคในสถานการณ์ที่เพิ่มประเด็นชวนสงสัยขึ้นร้อยแปดพันประการ ให้มาหาคำตอบกันต่อใน Season 2 ว่ากันง่ายๆ คือตอนจบSeason 1 ผู้ชมได้คำถามกลับมามากกว่าคำตอบนั่นเอง ซึ่งหลังจากการอดรนทนมาแรมปี ก่อนใช้เวลาเพียง 5 ชั่วโมงเศษๆ เพื่อไล่ดูรวดเดียวจบ 6 ตอน คำตอบส่วนใหญ่ก็ได้รับความคลี่คลาย เพียงแต่ในอัตราความตื่นเต้นที่ออกจะจางกว่า Season 1 ไปสักหน่อย แต่ก็แค่นิดเดียวเอง

อย่างไรก็ตามเมื่อมองในภาพรวมของทั้ง 6 ตอนก็ยังสามารถพูดได้ว่า Kingdom Season 2 เป็นซีรีส์ที่เต็มไปด้วยคุณภาพ โดยเฉพาะในด้านงานโปรดักชั่นที่ไม่ธรรมดาเลย ไม่ว่าจะฉากต่างๆ หรือเสื้อผ้าหน้าผม เรารู้สึกได้ว่านี่คือหนังที่ลงทุนไม่ใช่แค่โปรยเงิน แต่ยังพิถีพิถันในแง่ของกระบวนการ อาจจะติดแค่การจดจำนักแสดง ที่พอซีซั่นนี้ดันใส่ชุดคล้ายๆกัน แถมผู้ชายก็ไว้หนวดกันแทบทุกคน ก็ทำให้เกิดความยากขึ้นมาในการจดจำหรือแยกแยะ แต่พอช่วงกลางๆ เรื่องก็จะเริ่มหมดปัญหานี้ไป

กับ Kingdom Season 2 ในภาพรวมนี้ สำหรับคนที่ดูซีซั่นแรกมา คงไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะไม่ดูซีซั่น 2 ต่อ ส่วนผู้ที่ยังไม่เคยดูเลยก็อยากแนะนำครับ ยิ่งช่วงนี้อาจต้องอยู่ติดบ้านกันไปอีกพักใหญ่ๆ ซีรีส์ Kingdom ทั้ง 2 ซีซั่นก็ถือเป็นตัวเลือกในการดู หรือแสวงหาความบันเทิงชั้นดีเลยครับ แอดนี้รอ ซีซั่น3 ใจจะขาดแล้ว

ติดตามรีวิวภาพยนตร์ ได้ที่ : รีวิว Netflix

ติมตามเพจได้ที่ : มูฟวี่ Up2You