รีวิวซีรีส์ Moving (2023) จักรวาล X-Men เวอร์ชั่นซีรีส์เกาหลี ที่โคตรสนุก

รีวิวซีรีส์ Moving (2023)

ภาพยนตร์แนว : แอคชั่น / ไซไฟ / ระทึกขวัญ

ผู้กำกับ: พัคอินเจ (จากซีรีส์ Kingdom ซีซั่น 2)

นำแสดงโดย: รยูซึงรยง, ฮันฮโยจู, โจอินซอง, คิมซองกยุน, ชาแทฮยอน, รยูซึงบอม, โกยุนจอง, คิมโดฮุน, อีจองฮา, คิมฮีวอน, มุนซองกึน, พัคฮีซุน, ฮวังแทอุง


รีวิวซีรีส์ Moving (2023) ซีรีส์เกาหลีแนวซุปเปอร์ฮีโร แต่เต็มไปด้วยหลากหลายรสชาติ บทความรีวิวนี้ ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม หากผิดพลาดประการใด หรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่า

เรื่องย่อ Moving (2023) ซีรีส์เกาหลีแนวซูเปอร์ฮีโร่ที่พาผู้ชมไปติดตามเรื่องราวของเหล่านักเรียนในโรงเรียนแห่งหนึ่งที่มีผู้มีพลังวิเศษอยู่ โดยจะติดตามเรื่องราวของ คิมบงซอก(รับบทโดย อีจองฮา) เด็กหนุ่มที่มีพลังในการลอยตัว ซึ่งแม่ของเขาได้พยายามสั่งให้เขาซ่อนพลังไว้เพื่อไม่ให้พบเจอกับอันตราย อยู่มาวันหนึ่งได้มีนักเรียนหญิงเข้ามาใหม่ชื่อว่า ฮีซู (รับบทโดย โกยุนจอง) ที่เธอเองก็มีพลังวิเศษเหมือนกันคือความอมตะ และพ่อของเธอ

เองก็พยายามปิดซ่อนพลังไว้เช่นกัน โดยท้ายที่สุดแล้วความจริงที่อยู่เบื้องหลังพลังเหล่านี้คืออะไร เหตุผลที่พ่อแม่ของพวกเขาต้องหลบซ่อนและปกปิดเรื่องนี้เป็นเพราะอะไรกันแน่ ทุกคนต้องไปหาคำตอบและรับชมด้วยตาตัวเอง

รีวิวซีรีส์ Moving (2023)

สำหรับซีรีส์เรื่องนี้บอกเลยว่าติดงอมแงมมากๆ ตามดูมาตั้งแต่อาทิตย์แรกที่ออนแอร์ จนตัวซีรีส์เพิ่งมาจบลงเอาเมื่อวานนี้ บอกได้คำเดียวเลยว่า “ของโคตรดี” มันดีเกินมาตรฐานของซีรีส์เกาหลีทั่วไปอยู่พอสมควรเลย เริ่มจากบทกันก่อน บทเขียนมาดีสุดๆ ทุกตัวละครที่ปรากฎมาในเรื่องมีที่มาที่ไปทุกตัว ทุกตัวละครมีมิติที่ชัดเจนกันหมด ซีรีส์ใช้เวลาในการเล่าเรื่องได้คุ้มค่ามาก การบิ้วอารมณ์ร่วมให้กับคนดูก็ดีมากๆ แม้ว่าตัวซีรีส์จะเล่าย้อนอดีตแทบทุกตอน แต่มันก็เป็นการเล่าย้อนที่สนุกและดูเพลินสุดๆ ไม่มีจังหวะไหนให้รู้สึกเบื่อเลยซักนิด จากตอนแรกที่คนดูอาจเข้าใจว่ารุ่นลูกคือตัวเอก พอดูไปจริงๆ คุณจะรู้ว่าตัวเอกของซีรีส์เรื่องนี้คือรุ่นพ่อแม่ต่างหาก ดังนั้น การเล่าย้อนอดีตเยอะๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลย สิ่งที่น่าสนใจของซีรีส์เรื่องนี้ก็คือ เขาไม่ได้ทำมาเป็นแนวซูเปอร์ฮีโร่กู้โลกอะไรแบบนั้น แต่มันกลายเป็นซีรีส์ซูเปอร์ฮีโร่ครอบครัวที่บอกเล่าเรื่องราวของพ่อแม่ที่มีพลังวิเศษและพยายามทุกวิถีทางเพื่อปกป้องลูกๆ ของตัวเอง มันเป็นอะไรที่ใหม่พอสมควร จึงไม่แปลกเลยที่มันจะฮิตทั่วบ้านทั่วเมืองแบบนี้

รีวิวซีรีส์ Moving (2023)

ต่อมาคือด้านการแสดง ส่วนนี้เรียกได้ว่ายอดเยี่ยมสุดๆ แคสต์นักแสดงมาดีมากๆ แสดงดีกันทุกคนแบบไร้ที่ติจริงๆ แสดงดีกันทุกฉากตั้งแต่ฉากดราม่าไปยันฉากแอ็คชั่น ส่วนตัวชอบรุ่นพ่อแม่มาก ทั้งคิมดูชิก (รับบทโดย โจอินซอง) และอีมีฮยอน (รับบทโดย ฮันฮโยจู)พ่อแม่ของบกซอกที่มีฉากย้อนอดีตให้ดูความหวานซึ่งเคมีเข้ากันแบบสุดๆ โดยเฉพาะคุณแม่นี่สวยทะลุแว่นมาก เล่นดีกันทั้งคู่ แต่ส่วนตัวผมชอบการแสดงของ รยูซึงรยง ที่รับบทเป็น จางจูวอน คุณพ่อของฮีซูมากที่สุด ชายหนุ่มพลังอมตะที่ดูใสซื่อแต่เต็มไปด้วยอดีตอันขมขื่น ป๋าแกแสดงดีแบบคู่ควรกับรางวัลมากๆ ฉากร้องไห้ที่ตอนไปงานศพภรรยาคือเดอะเบส แสดงดีจนขนลุกเลยซีนนั้น ร้องไห้เหมือนคนใจจะขาดจริงๆ ยกให้เป็นฉากที่ชอบที่สุดของซีรีส์เรื่องนี้เลย

รีวิวซีรีส์ Moving (2023)

รีวิวซีรีส์ Moving (2023) ส่วนสุดท้ายคือด้านงานสร้างและการโปรดักชั่น ส่วนนี้คือ 10/10 ไร้ที่ติจริงๆ แทบจะเป็นการยกระดับซีรีส์เกาหลีไปแล้ว ตั้งแต่งานภาพที่สวนทุกซีนทุกเฟรม งานซีจีไอที่จัดหนักจัดเต็ม ไปจนถึงฉากแอ็คชั่นที่ดีไซน์ออกมาได้ดีทุกซีนตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งฉากแอ็คชั่นที่ชอบที่สุดผมขอยกให้ตอนที่แฟรงค์เจอกับเจ๊ร้านเสริมสวยที่มีพลังมองทะลุ ฉากนั้นคือทำมาดีสุดๆ ดูแล้วว้าวมาก และสังเกตุดีๆ จะเห็นว่าเกาหลีเขามีสไตล์การทำฉากแอ็คชั่นอยู่ คือมันต้องออกมาสะใจได้อารมณ์ แบบทะลุกำแพง ของพังเละเทะ ซึ่งมันก็ได้อารมณ์จริงๆ ตามที่เขาต้องการเลย ส่วนฉากแอ็คชั่นอื่นๆ ที่ชอบก็คงเป็นทุกฉากของจางจูวอน คุณพ่อพลังอมตะ เพราะป๋าแกเอาอยู่จริงๆ ตบหมดไม่สนลูกใคร ทุกครั้งที่ตัวละครนี้โผล่มาในสถานการณ์คับขันเราจะรู้สึกโล่งใจทันที คือตัวละครนี้มันโหดจนคนดูไว้ใจได้จริงๆ ว่าถ้าแกมาคือเรื่องเงียบ สุดท้ายนี้อยากบอกแค่คำเดียวว่า ไปดูกันเถอะครับ ไม่ผิดหวังแน่นอน ยกให้เป็นซีรีส์เกาหลีแห่งปีแบบไร้ข้อกังขา แถมเนื้อหาในซีรีส์ก็ย่อยง่ายเข้าถึงคนดูได้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าคุณจะดูเอาสนุกหรือดูแบบจริงจัง คุณก็จะหลงรักซีรีส์เรื่องนี้กันอยู่ดี

ติดตามรีวิวภาพยนตร์ ได้ที่ : รีวิว Netflix

ติมตามเพจได้ที่ : มูฟวี่ Up2You