รีวิว The Uncanny Counter คนล่าปีศาจ
รีวิว The Uncanny Counter คนล่าปีศาจ ซีรีส์เกาหลี ของ Netflix แนวแอ็กชั่นดราม่า เรื่องราวการล่าปีศาจในโลกมนุษย์ของกลุ่มคนทำงานจากนรกที่เรียกตัวเองว่า Counter [ไม่สปอยนะ]
รีวิว The Uncanny Counter คนล่าปีศาจ ซีรีส์เกาหลีที่สร้างจากเว็บตูนชื่อ Amazing Rumor เรื่องราวของกลุ่มนักล่าปีศาจที่เรียกตัวเองว่า Counter พวกเขาปกปิดตัวด้วยการเปิดร้านบะหมี่บังหน้า และได้รับหน้าที่นี้มาจากนรก เป็นเหมือนยมฑูตล่าปีศาจในโลกมนุษย์ แต่ทุกคนต้องผ่านช่วงเวลาโคม่าใกล้ตายมาก่อนแล้วถึงจะมาทำงานนี้ได้ และได้รับพลังพิเศษแตกต่างกันไปในแต่ละคน แต่แล้ววันหนึ่ง โซมุน เด็กหนุ่มขาพิการที่ใช้ชีวิตปกติอยู่ดีๆ กลับได้รับพลังนี้มาอย่างไม่รู้ตัว และก็ได้ก้าวเข้ามาสู่โลกของ Counter จากการชักชวนของรุ่นพี่ร้านบะหมี่ที่ต้องการสมาชิกใหม่มาทดแทนคนที่พึ่งตายไป จากปีศาจร้ายระดับสูงที่ทีมนี้พึ่งเคยพบเจอเป็นครั้งแรก
Counter จะมีพละกำลังมากกว่ามนุษย์ทั่วไปถึง 3 เท่า สามารถตรวจจับปีศาจได้ในระยะทางหลายกิโลเมตรในช่วงที่ปีศาจเหยียบเข้าไปในพื้นที่ที่เปิดออก และสามารถอ่านความทรงจำเมื่อโดนตัวทั้งคนและปีศาจได้บางส่วน นอกจากนี้ยังมีเวลาที่ร่างกายของ Counter สามารถเพิ่มพลังได้มากถึง 5 เท่าคือเวลาที่พื้นที่ของยุงเปิดออก ซึ่งพื้นที่จะเปิดออกก็ต่อเมื่อพลังของสวรรค์และโลกมนุษย์ประสานกันจนทำให้เกิดคลื่น จะมีเพียง Counter เท่านั้นที่จะมองเห็น [พื้นที่ของยุงนั้นจะมีลักษณะเป็นเหมือนแสงเลเซอร์ที่ถูกยิงขึ้นมาจากพื้น] โดยพวกเขาจะไม่สามารถรู้ได้ว่าพื้นที่จะเปิดออกเมื่อไหร่และนานแค่ไหน
พล็อตเรื่องถือว่าออกแนวการ์ตูนที่ตัวเอกเป็นนักเรียน วันดีคืนดีได้พลังพิเศษมาครอง[ก็สร้างจากกาตูนนี้] พบเจอปีศาจหรือเรื่องเหนือธรรมชาติ ช่วยผู้คน กู้โลก พบรักกับสาวในวงการเดียวกัน ทุกอย่างแทบจะเรียกว่าธรรมด๊าธรรมดาจริงๆ แต่ต้องยอมรับว่าซีรีส์ฝรั่งหลายๆเรื่องก็เคยนำพล็อตเรื่องแบบนี้มาเล่นเหมือนกัน และก็ไม่ได้แตกต่างกันสักเท่าไหร่ เพราะเรื่องราวการต่อสู้กับปีศาจที่ลงมาสิงคนแทบจะเป็นอะไรที่ไม่สามารถฉีกให้แตกต่างไปได้อีกแล้ว แต่ในเรื่อง Counter กลับมีอะไรหลายอย่างที่ลงลึกและแตกต่างไปได้อย่างน่าสนใจ
ต้องบอกได้ว่าเป็นซีรีส์ แนวฮีโร่ คอมเมดี้ และการ์ตูนผสมมาด้วย ส่วนในพาร์ทสืบสวนสอบสวนกลับให้ความเข้มข้น ไว้ได้อย่างคงเส้นคงวา และซีรี่ส์ก็ตีแผ่ปัญหาการเมืองท้องถิ่นได้ลึกถึงแก่นด้วย ทั้งการใช้อำนาจเงินในการกรุยทางให้ไต่ขึ้นไปสู่การเมืองระดับประเทศ การฟอกเงินผ่านการกินรวบธุรกิจ การทำธุรกิจบนความทุกข์ยากของประชาชน การติดสินบนตำรวจเพื่อปกปิดและบิดเบือน การตามฆ่าคนที่รู้เรื่องอย่างกับเป็นผักปลาที่จะฆ่าตอนไหนก็ได้ [เหมือนบ้านเราจริงๆ] มันทำให้คนดูอย่างเราต้องคิดตามไปด้วยว่า อะไรคือมนุษย์อะไรคือ ปีศาจ และมนุษย์หรือปีศาจที่น่ากลัวกว่ากัน
ฉากแอคชั่นที่สุดมันส์จริงๆ เป็นซีรีส์ที่ต้องไล่ล่าปีศาจแทบจะทั้งเรื่อง ฉากบู๊แอคชั่นต้องจัดเต็ม ยิ่งตอนนักแสดงวิ่งไล่กันข้ามตึก[อย่างเทห์] วิ่งไล่จับ นักแสดงทุกคนทำออกมาได้ดี แอคชั่นเรื่องนี้ต้องยกนิ้วให้ เซจอง เลยจริงๆคิวบู๊ของเธอลื่นไหลและสวยงามมากๆส่วนด้านงานภาพ มุมกล้องก็จัดเต็มเหมือนกัน มีการใส่ความเป็นการ์ตูนลงไปในบางฉากซึ่งมันทั้งดูว้าว และดูน่ารักไปพร้อมๆกัน บางฉากก็มีการใช้มุมกล้องแบบ FPS [มุมมองแบบในเกมส์ประเภท SHOOTING] ทำให้คนดูเหมือนถูกดึงเข้าไปอยู่ในสถานการณ์เดียวกับที่ตัวละครด้วย เหมือนเรากำลังร่วมต่อสู้กำจัดปีศาจไปพร้อมๆกับ Counter เลยก็ว่าได้ มันยิ่งทวีความอินความสนุกให้กับคนดูในอีกทางนึงได้เป็นอย่างดี
ถามว่าน่าสนใจขนาดไหน บอกเลยว่าน่าติดตาม เหมาะกับคนชื่นชอบเรื่องราวแฟนตาซี ล่าปีศาจ ออกไปทางการ์ตูน นักแสดงหลักเล่นดีเลยเพราะแต่ละคนก็ผ่านซีรีส์หนังมาหลายเรื่อง สำหรับใครที่เป็นคอซีรี่ส์แนวแอ็คชั่นแฟนตาซีห้ามพลาดเด็ดขาด ติดตามซีรีส์เรื่องนี้และรับชมได้แล้วทาง Netflix ทั้ง16ตอน จบ
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ ได้ที่ : รีวิว ซีรี่ส์ เกาหลี
ติมตามเพจได้ที่ : มูฟวี่ Up2You
